เริ่มต้นสัปดาห์ของการทำงาน เป็นช่วงเวลาที่ต้องฝ่าฝันกับความขี้เกียจหลังวันหยุดสุดสัปดาห์ และงานจะพีคสุด ๆ อย่าบอกใคร ทั้งงานเก่าที่ค้างมาจากอาทิตย์ที่แล้ว วิธีรับมือจัดการงานหนัก แถมยังมีงานของอาทิตย์นี้จ่อรออยู่อีก เริ่มต้นสัปดาห์การทำงาน ก็ช่าง busy สุด ๆ จนแทบไม่มีเวลาหายใจหายคอ มาปลุกพลังการทำงานกันใหม่ด้วยวิธีต่อไปนี้
รับมือจัดการงานหนัก เริ่มต้นงานทุกวันด้วยความสนุกและมีความสุข
1. เริ่มต้นวันใหม่ให้สดชื่น
เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ปลุกพลังให้ชีวิตตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า ออกมายืดเส้นยืดสาย สัมผัสธรรมชาติ สายลมแสงแดด สูดอากาศยามเช้าให้เต็มปอด รับออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย ช่วยสร้างความสดชื่น สดใส ทำให้สมองปลอดโปร่ง มีพลังดี ๆ ที่จะเริ่มต้นงานในวันใหม่ได้อย่างกระฉับกระเฉงมากกว่าที่เคย
2. ปลุกขวัญกำลังใจให้ตัวเอง
มาเสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้ฮึกเหิม เชื่อมั่นในตัวเองว่าเราจะสามารถผ่านพ้นกองงานเท่าภูเขาเลากาเหล่านี้ไปได้ในที่สุด กำลังใจที่เข้มแข็งจะทำให้รู้สึกฮึดสู้ อย่าลืมมองดูรอบ ๆ ตัวเรา เพื่อนร่วมงานของเราอีกหลายชีวิตก็กำลังฝ่าฟันทำงาน พยายามเอาชนะอุปสรรคปัญหาต่าง ๆ นานาเหมือนเราอยู่เช่นกัน ตัวเราไม่ได้เป็นคนเดียวที่ทำงานหนักอย่างแน่นอน
3. วางแผนได้ สำเร็จง่ายขึ้น
ต้องรู้จักวางแผนการทำงาน เริ่มจากจดทุกอย่างที่ต้องทำไว้ โดยเรียงลำดับตามความสำคัญของงาน เมื่อทำเสร็จก็ขีดฆ่าออกไป รู้สึกดีใช่ไหมที่สามารถเคลียร์งานแต่ละตัวออกไปได้อย่างต่อเนื่อง หรือจะลองจัดสรรเวลาทำงานโดยใช้หลักการของ Pareto ยึดหลัก 20/80 แบ่งงานของเราออกเป็น 2 ประเภท คือ งานสำคัญมากที่สุด 20% ที่เหลือ 80% คืองานที่สำคัญรองลงมา แล้ววางแผนต่อว่า 80% ของเวลาทำงานในแต่ละวัน เราได้ทุ่มเทกับงานสำคัญ 20% ที่ว่านี้อย่างเต็มที่หรือไม่ หากรู้จักวางแผน จัดลำดับความสำคัญของทุกสิ่งอย่างแล้ว การงานทุกอย่างก็จะลงตัวมากขึ้น และทำให้สำเร็จได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
4. ใช้เส้นตายและเป้าหมายเป็นแรงกระตุ้น
นอกจากเส้นตายที่เจ้านาย หัวหน้า หรือลูกค้ากำหนดไว้ จะเป็นเชื้อไฟในการทำงาน (วินาทีสุดท้าย) ได้เป็นอย่างดี หรือจะลองใช้วิธีที่ดีต่อใจมากกว่า ด้วยการตั้งเป้าหมายว่าหากทำงานนี้เสร็จ เราอยากทำอะไร หรือจะให้รางวัลอะไรกับตัวเอง มีเป้าหมายมาล่อใจอย่างนี้ มีพลังในการทำงานอย่างแน่นอน
5. หากไม่ไหว … ต้องให้ทีมช่วย
หากปริมาณงานที่ได้รับมอบหมายมากเกินไป ไม่สามารถทำให้เสร็จได้ภายในวันเดียว ต้องรีบแจ้งหัวหน้างานให้ช่วยหาวิธีแก้ปัญหาทันที ดีกว่าให้งานทั้งหมดมากองอยู่ที่เรา จนต้องล่าช้าส่งผลกระทบไปยังส่วนงานอื่น ๆ ทางที่ดีอาจให้ทีมเข้ามามีส่วนร่วม รวมพลังร่วมด้วยช่วยกัน แถมตอนช่วยกันทำงานยังได้พูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันเรื่องงาน สร้างความสัมพันธ์อันดีไปพร้อม ๆ กับการสร้างสรรค์ผลงานอย่างมีประสิทธิภาพ
6. ต้องสู้จึงจะชนะ
พึงระลึกไว้เสมอว่า งานยากเป็นงานที่ท้าทายความสามารถ งานหนักสร้างโอกาสในการเรียนรู้ให้กับตัวเรา เมื่อค่อย ๆ เรียนรู้ปัญหาและหาทางแก้ไขได้ เราจะค้นพบตัวเองว่าสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด ต่อไปเมื่อต้องเจอกับงานยากเท่าไหร่ก็ไม่หวั่น เพราะที่สุดแล้วเราก็จะผ่านไปได้ เพราะเคยผ่านมันมาแล้ว แทนที่คำว่า “ทำไม่ได้” ด้วยคำว่า “ทำอย่างไร” เอาชนะได้ทุกอุปสรรค พร้อมพัฒนา skill การทำงานไปในตัว
7. พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ เติมไฟในการทำงาน
จงทำตัวเป็นน้ำที่ไม่เต็มแก้วอยู่เสมอ อย่าเพิ่งมั่นใจว่าทำงานมาหลายปีแล้วเราจะเป็นคนทำงานเก่งและมีประสิทธิภาพเสมอไป เพราะเรื่องการทำงานนั้น เราสามารถเรียนรู้และพัฒนาให้ดีขึ้นได้ในทุกวัน เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ให้กลายเป็นคนกระตือรือร้น ตื่นตัวที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และศึกษางานใหม่ ๆ อยู่เสมอ เมื่อมีปัญหาก็ฝึกแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ด้วยตัวเอง เรียนรู้จากความผิดพลาด เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอย่างต่อเนื่อง แล้วหนทางของความสำเร็จในสายอาชีพก็จะไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป
8. ออกจากกรอบ หลีกหนีความจำเจ
การอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิม ๆ ทำอะไรซ้ำ ๆ เดิม อยู่ทุกวัน นำไปสู่การเบื่องานได้ในที่สุด แถมยิ่งหนักเป็นสองเท่า หากเจอสถานการณ์งานรุมเร้า เพราะทั้งเบื่อและทั้งเหนื่อย ทางที่ดี อย่าทำตัวให้คุ้นชินกับสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ออกจากสิ่งแวดล้อมเดิม ๆ ไปหาบรรยากาศใหม่ ๆ ในการทำงาน ลองเปลี่ยนมุม หรือย้ายที่นั่งทำงานชั่วคราว จะได้เกิดแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ในการทำงาน กระตุ้นให้อยากสร้างสรรค์ผลงานให้ดียิ่งขึ้น และมีประสิทธิผลมากขึ้น
9. สร้างจุดเด่น เพิ่ม Talent ให้ตัวเอง
หาสิ่งที่เป็นจุดแข็ง สิ่งที่เราเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในการทำงาน เพื่อมุ่งสู่ความเป็นมืออาชีพ คนที่สามารถรับผิดชอบต่อเรื่องคุณภาพ ต้นทุน เวลาส่งมอบงาน และสามารถสร้าง output ได้มากกว่าที่องค์กรคาดหวัง จะเป็นบุคลากรคุณภาพที่มักจะได้รับความไว้วางใจให้ทำงานสำคัญ ๆ อยู่เสมอ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตนเองในการทำงาน แล้วเราจะรู้สึกว่าตัวเองเก่งขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเกิดความชำนาญแล้ว อะไร ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป อีกทั้งยังสามารถทำงานได้อย่างมีความสุขในทุกวัน
10. ดูแลตัวเอง รู้จักพัก เพิ่มพลังให้ชีวิต
ทุ่มเททำงานหนักแล้วก็อย่าลืมหาเวลาพักบ้าง ดูแลตัวเองกันด้วย เพราะร่างกายไม่ใช่เครื่องจักร ยิ่งทำงานหนักก็ยิ่งต้องใส่ใจดูแลสุขภาพ หาเวลาออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำตลอดอย่าให้ขาด หาเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ หรือจะลองฝึกสมาธิเพื่อ refresh สมองก็ดีไม่น้อย การดูแลตัวเองเป็นอย่างดีจะทำให้มีสุขภาพกายแข็งแรง เพิ่มพลังกาย พลังใจ และพลังสมองในการทำงานหนักได้ต่อไป