ความสำคัญระหว่าง พนักงานเก่ากับพนักงานใหม่ แบบไหนดีกว่ากัน

แน่นอนว่าไม่มีองค์กรไหนหรือบริษัทใดที่จะมีแต่พนักงานคนเดิม ชุดเดิมอยู่ทำงานตั้งแต่ก่อตั้งจวบจนถึงปัจจุบันอย่างแน่นอน ตามวงจรชีวิตการทำงานก็จะมีทั้งพนักงานคนเก่าและพนักงานคนใหม่หรือแม้แต่ ฟรีแลนซ์ ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกัน ขึ้นอยู่ที่ว่าบริษัทนั้น ๆ ตอบโจทย์ของพนักงานได้มากน้อยแค่ไหน เพราะพนักงานแต่ละคนก็มีเงื่อนไขในการใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนกัน และแน่นอนว่าเมื่อมีพนักงานเก่าก็ต้องมีพนักงานใหม่ บางองค์กรอาจจะไม่มีปัญหา แต่ในหลาย ๆ องค์กรกลับเกิดปัญหาระหว่างพนักงานเก่ากับพนักงานใหม่อย่างไม่น่าเชื่อ

 

ความสำคัญระหว่าง พนักงานเก่ากับพนักงานใหม่ แบบไหนดีกว่ากัน

ข้อดีของพนักงานใหม่

ช่วยแบ่งเบางาน เพราะเหตุผลหลักที่หลาย ๆ บริษัทเปิดรับพนักงานใหม่ก็เพื่อมาช่วยแบ่งเบาภาระในการทำงานภายในออฟฟิศนั่นเอง
ว่านอนสอนง่าย เพราะเป็นพนักงานใหม่ ยังไม่รู้จักใคร ย่อมไม่มีปากมีเสียง หรือไม่เป็นตัวตั้งตัวดีในการก่อปัญหากับคนอื่น ๆ แน่นอน
มีความคิดสร้างสรรค์ เพราะด้วยความที่เป็นน้องใหม่ ไม่ว่าจะเป็นน้องใหม่วัยเพิ่งเรียนจบ หรือจะเป็นใหม่ที่นี่แต่เก่ามาจากที่อื่นก็ตาม ล้วนแล้วแต่มีความคิดใหม่ ๆ ติดตัวมาเสมอ ส่วนหนึ่งด้วยความที่มาจากอีกองค์กรหนึ่ง มาจากอีกมุมองหนึ่งเลยเสมือนเป็นตัวกระตุ้นความสร้างสรรค์ให้ทีมได้
กระตือรือร้น ด้วยความที่เป็นน้องใหม่ ย่อมมีไฟในการทำงานมากเป็นธรรมดา ฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจหากน้องใหม่ในทีมจะสามารถทำงานได้เป็นตั้ง ๆ หรือสั่งอะไรก็สามารถทำให้ได้ทันที
เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้ง่าย เพราะด้วยความสด ความใหม่นั่นเองที่ทำให้พนักงานใหม่เปรียบเสมือนน้ำที่ยังไม่เต็มแก้ว พร้อมที่จะรับรู้สิ่งใหม่ ๆ เสมอ ๆ และที่สำคัญส่วนใหญ่มักจะเรียนรู้ได้เร็วเสียด้วย
ข้อเสียของพนักงานใหม่

ประสบการณ์น้อย หรือไม่มีประสบการณ์เลย ซึ่งเป็นข้อเสียที่มักจะพบได้บ่อย ๆ
เสียเวลาในการเทรน สำหรับน้อง ๆที่เพิ่งเรียนจบถือว่าต้องสอนกันยาวไหนจะการปรับตัวให้เข้ากับโลกใหม่ ไหนจะต้องปรับตัวให้เข้ากับบริษัท ไหนจะต้องเรียนรู้งานอีกกว่าจะสามารถทำงานได้เต็มที่จริง ๆ ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร หรือแม้แต่คนที่มีประสบการณ์มาแล้วก็ตาม อย่างไรก็ต้องเสียเวลาในการปรับตัวกับองค์กรใหม่ เรียนรู้งานใหม่ เพราะบริษัทแต่ละแห่งแม้จะเป็นงานในขอบเขตที่เหมือนกัน แต่วิธีการทำงานอาจจะไม่เหมือนกัน
ค่าใช้จ่ายสูง ปัจจุบันมีการกำหนดฐานเงินเดือนขั้นต่ำไว้อยู่แล้ว ไหนจะค่าเทรนกว่าจะทำงานได้ดีอีก บริษัทก็ถือว่ามีค่าใช้จ่ายตรงนี้ด้วย
ไม่แน่นอน บางครั้งฝ่ายบุคคลต้องประสบปัญหาพนักงานไม่มาทำงานโดยไม่แจ้งล่วงหน้า หรือตอบตกลงมาทำงานแล้วแต่ถึงเวลากลับไม่มาทำงาน หรือแม้แต่พนักงานใหม่ที่ทำงานอยู่บางคนก็อาจจะอยู่ไม่ทน พอถึงระยะหนึ่งก็ลาออก ทำให้ต้องประกาศรับคนใหม่อีกแล้ว
ข้อดีของพนักงานเก่า

ทำให้งานราบรื่น ด้วยความที่ทำงานมานาน มีประสบการณ์ ฉะนั้นจึงไม่ทำให้บริษัทต้องสะดุดหรือชะงักแน่นอน
รู้งาน เพราะทำงานมานานสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างดีเพราะมีประสบการณ์ในการทำงานแล้ว ย่อมมีทักษะในการแก้ไขปัญหาได้
รู้จักบริษัท รู้ประวัติความเป็นมาของบริษัท รู้ที่มาที่ไปและวัฒนธรรมองค์กรเป็นอย่างไร จึงสามารถปรับตัวให้อยู่ได้อย่างไม่อึดอัด
มั่นคง ส่วนใหญ่พนักงานเก่ามักจะมีอายุงานนาน มักจะไม่เปลี่ยนงานบ่อย ๆ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการเทรนด์งาน สามารถสั่งงานได้เลย
ข้อเสียของพนักงานเก่า

เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้ช้า ทำให้บางครั้งตัวบริษัทไม่สามารถปรับเปลี่ยนตามกระแสโลกภายนอกได้ทัน ก็กลายเป็นองค์กรล้าสมัยไป
มีความคิดเป็นของตัวเอง ด้วยความที่ทำงานมานาน มีประสบการณ์การทำงานเยอะกว่าทำให้พนักงานเก่ายึดความคิดของตัวเองเป็นหลัก จนปิดกั้นแนวทางการทำงานใหม่ ๆ
ความคิดไม่ค่อยสร้างสรรค์ ส่วนหนึ่งด้วยความที่ต้องทำงานเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ทำให้ไม่ค่อยได้พัฒนาความคิด หรือความสร้างสรรค์ใหม่ ๆ งานที่ออกมาจึงเป็นงานเดิม ๆ
หมดไฟ พนักงานเก่าหลาย ๆ คนเริ่มมีครอบครัว มีหน้าที่ความรับผิดชอบที่เพิ่มมากขึ้น จึงมีเวลาทุ่มเทให้กับงานน้อยลง บางคนทำงานหนักที่ออฟฟิศ กลับบ้านก็ต้องมาทำงานบ้าน ดูแลบ้าน ดูแลครอบครัว พอหัวตกถึงหมอนก็หลับเป็นตาย เช้าตื่นมาก็ไปทำงาน แล้วก็วนลูปอยู่อย่างนี้ทำให้ค่อย ๆ หมดไฟกับการทำงานไปในที่สุด

โปรแกรม MixPad Multitrack Recording มิกซ์เพลง แต่งเพลง

เชื่อได้ว่าหลายคนต้องอยากแต่งเพลงเล่นๆ หรือนำไปใช้กับงานต่างๆ เช่น งานแต่งงาน งานดีเจเปิดเพลง งานประชุม เป็นต้น แต่ละงานก็ต้องใช้เสียงประกอบทั้งนั้นจะดีกว่ามั้ยถ้าใช้ โปรแกรมแต่งเพลงอย่าง โปรแกรม MixPad Multitrack Recording ที่สามารถแต่งเพลงได้อย่างตามใจให้อิสระสุดๆ ไม่ว่าจะเป้นการเอาเพลงมาต่อกัน มิกซ์สลับแบบดีเจชื่นชอบ และฟีเจอร์อื่นๆ อีกเพียบ

โปรแกรม MixPad Multitrack Recording มิกซ์เพลง แต่งเพลง

โปรแกรม MixPad Multitrack Recording มิกซ์เพลง แต่งเพลง

เป็นอีกโปรแกรมหนึ่งเหมาะมากๆ สำหรับใครที่ต้องการดัดแปลงเพลงต่างๆ ให้เป็นเพลงในแบบฉบับของคุณ โดยนอกจากจะเป็นโปรแกรมทำเพลงแล้วยังสามารถแต่งเพลงได้ด้วย และด้วยคุณสมบัติของโปรแกรมแต่งเพลงนี้เองจึงทำให้คุณสามารถแต่งเพลงด้วยคีย์ที่คุณคิดขึ้นมาใหม่ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็น G A B C E F หรือจะเป็นคีย์อื่นๆ ก็ตาม ไม่ว่าคุณต้องการเสียงสูง กลาง ต่ำ หรือจังหวะที่แปลกแหวกแนวแค่ไหนก็ทำได้

นอกจากจะเป็นโปรแกรมที่เน้นไปทางด้านการปรับแต่งเพลงแล้ว โปรแกรมนี้ยังมีฟังก์ชั่นการทำงานของ โปรแกรมอัดเสียง ที่เพิ่มเข้ามาให้ในโปรแกรมอีกด้วย ด้วยการทำงานในส่วนนี้จึงสามารถให้คุณอัดไฟล์เสียงและนำมาปรับแต่งเป็นเสียงที่มีความสูงและต่ำที่ไม่เหมือนเสียงเดิมกันเลยทีเดียว และยังสามารุเพิ่มเอฟเฟคเข้าไปได้อีกด้วย หากคุณกำลังมองหาโปรแกรมสำหรับการปรับแต่งเสียงหรือมิกซ์เสียงโปรแกรมนี้ก็เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่หน้าใช้งานพอสมควรเลย

ความสามารถในการมิกซ์เพลงได้ไม่จำกัดจำนวนเพลง ทั้งเสียงนักร้องและ เสียงเพลง จะอัดเพลงเดี่ยว หรือ หลายๆ เพลง พร้อมกันก็ทำได้ ทั้งยังรองรับไฟล์ audio ยอดนิยมได้หลากหลายไฟล์ อาทิ MP4, MP3, WMA เป็นต้น สามารถเพิ่ม Effect พร้อมกับปรับ Equalizer และอื่นๆ อีกมากมาย รองรับคลื่นความถี่เพลงตั้งแต่ 6 kHz ถึง 96 kHz สามารถแปลงไฟล์ส่งออกไฟล์ (Export) ยอดนิยมได้มากมาย และบันทึกไฟล์คุณภาพ ที่ต้องการใช้งาน สำหรับแชร์ให้เพื่อนๆ ฟังได้

โปรแกรมนี้ทางผู้พัฒนาโปรแกรมเปิดให้ดาวน์โหลดไปทดลองใช้แบบ Shareware ก่อน 14 วัน หากถูกใจสามารถซื้อมาใช้งานได้ในราคา 5.99$ ตามแพ็คเกจที่ต้องการ โดยรองรับการทำงานกับ Windows XP / Vista / 7 (Seven) / 8 / 8.1 / 10 และ Mac ตั้งแต่เวอร์ชั่น X 10.4 Tiger ขึ้นไป

โปรแกรม Movie Maker สร้างวีดีโอและสไลด์โชว์ที่สามารถทำเองได้

หลายคนหวังว่าการตัดต่อวีดีโอจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นด้วย โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ แต่แล้วความคิดแบบนั้นก็เป็นจริงเนื่องจากทีมพัฒนาโปรแกรมประเภทตัดต่อวีดีโอเพิ่มมากขึ้น และเปิดให้ใช้กันหลายตัวเลยทีเดียว หนึ่งในนั้นคือ โปรแกรม Movie Maker ที่สามารถสร้างสไลด์โชว์และวีดีโอได้หลายรูปแบบเลย ด้วยความสามารถคร่าวๆ ของมัน ที่แต่งภาพให้เป็นเฉดสี โทนสี ได้มากมาย เช่น ซีเปีย (Sepia), ขาวดำ (Black and White) เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้ไอเทมฟุ้งๆ ให้ภาพดูเบลอสวยได้จุใจ และรวบมาเป็นสไลด์หรือวีดีโอที่ต้องการได้ในตัว

โปรแกรม Movie Maker สร้างวีดีโอและสไลด์โชว์ที่สามารถทำเองได้

ในตัวโปรแกรมสามารถใช้เครื่องมือในการตัดต่อวีดีโอ รวมรูปภาพ วีดีโอ ดนตรี และเอฟเฟคต่างๆ ไว้ด้วยกัน เพียงไม่กี่ขั้นตอน ใช้ระยะเวลาไม่นาน ก็สามารถ ตัดต่อวีดีโอ ได้อย่างง่ายๆ สะดวก รวดเร็ว ใส่ไฟล์เสียง (Audio) หรือเอฟเฟกต์ (Effects) ต่างๆ ให้กับวีดีโอได้ และยังเป็น โปรแกรมแปลงไฟล์ MP4 เซฟวีดีโอออกมาเป็นไฟล์ MP4 ได้เลยทันที หรือจะบันทึกผลงานวีดีโอที่ตัดต่อเรียบร้อยแล้วในรูปแบบของไฟล์ .MOV ก็สามารถทำได้

สามารถสร้างความแปลกใหม่น่าสนใจให้กับคลิปวีดีโอของคุณในรูปแบบของธีมที่เลือกใช้ได้หลากหลาย อาทิ ธีมแบบหิมะตก ธีมแบบฟองสบู่ ธีมฝนตก หรือธีมสุขสันต์วันเกิดเป็นต้น เราสามารถปรับสี และขนาดฟอนต์อักษรข้อความของแต่ละธีมได้ตามต้องการ หรือจะเลือกแปะสติ๊กเกอร์สวยๆ ลงในคลิปวีดีโอของคุณได้ตามต้องการ สามารถนำคลืปวีดีโอหลายคลิปมาเรียงต่อกันเป็นคลิปเดียวยาวๆ ได้อย่างแนบเนียน

สามารถใส่ฟิลเตอร์เพื่อปรับโทนสีวีดีโอของคุณให้งดงามอลังการ มีฟิลเตอร์ให้เลือกใช้หลายแบบ อาทิ Sepia, Mirror, Negative และอื่นๆ อีกมากมาย สามารถเลือกใส่เสียง และดนตรีประกอบลงไปในคลิปตรงจุดที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย โปรแกรม Movie Maker นี้ สามารถสร้างสรรค์ สไลด์โชว์ วีดีโอดีๆ ได้ดั่งใจต้องการ

สำหรับใครที่กำลังมองหาโปรแกรมตัดต่อวีดีโอสักตัวหนึ่งคงต้องแนะนำโปรแกรมตัวนี้เลยจริงๆ เพราะนอกจากจะใช้งานง่ายแล้วยังเปิดให้ดาวน์โหลดไปใช้งานกันฟรีๆ อีก ซึ่งรองรับ Windows 10 ด้วย รวมไปถึงมือถือต่างๆ อย่างสมาร์ทโฟนก็ได้เช่นกัน บอกเลยว่าโปรแกรมฟรี (Freeware) ไม่ค่อยจะมีออกมาให้เห็นกันมากนัก เนื่องจากปัจจุบันจะแบ่งขายกันเป็นรายปี (Licence per year) ทำให้คนที่ไม่ค่อยได้ใช้ไม่ปลื้มสักเท่าไร แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยและความชำนาญอีกด้วยนะ

ทักษะการวางตัว เพื่อให้เจ้านายมองเห็นถึงความพยายามของคุณ

การวางตัวในที่ทำงานเป็นสิ่งสำคัญ หากอยากประสบความสำเร็จ ต้องฉลาดคิด ฉลาดพูด เรื่องบางเรื่อง การกระทำบางอย่างไม่ควรแสดงออกต่อหน้าเจ้านาย ถึงแม้จะรับจ้าแบบ ฟรีแลนซ์ คุณอาจไม่คิดอะไร แต่เรื่อง ทักษะการวางตัว แบบนี้เจ้านายให้ความสำคัญ ดังนั้นต้องคิดทุกครั้งก่อนที่จะพูดอะไรออกไปการวางตัวในที่ทำงานเป็นสิ่งสำคัญ หากอยากประสบความสำเร็จ ต้องฉลาดคิด ฉลาดพูด เรื่องบางเรื่อง การกระทำบางอย่างไม่ควรแสดงออกต่อหน้าเจ้านาย ถึงแม้ว่าคุณอาจไม่คิดอะไร แต่เรื่องแบบนี้ เจ้านายให้ความสำคัญ ดังนั้นต้องคิดทุกครั้งก่อนที่จะพูดอะไรออกไป

ทักษะการวางตัว เพื่อให้เจ้านายมองเห็นถึงความพยายามของคุณ

ทักษะการวางตัว เพื่อให้เจ้านายมองเห็นถึงความพยายามของคุณ

1. ผม/ ฉันทำงานนี้เพราะเงิน แม้ว่าเจ้านายอาจรู้ว่า เงินคือแรงจูงใจของคุณ และคุณก็คิดว่าเจ้านายรู้แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ควรพูดออกไป
2. ผม/ ฉันจะลาออก เมื่อผม/ ฉัน… คุณไม่ควรให้เจ้านายล่วงรู้ถึงแผนการในอนาคตของคุณ เช่น คุณกำลังเก็บเงินเพื่อไปประกอบกิจการส่วนตัวในอนาคต หรือคุณกำลังจะเรียนต่อ หากปล่อยให้เจ้านายรู้ เจ้านายอาจรีบหาพนักงานคนใหม่มาแทนคุณ และทำให้คุณต้องออกจากงานก่อนเวลาอันควรก็ได้
3. ไม่ใช่ความผิดของผม/ ฉัน การปัดความรับผิดชอบ ไม่ใช่วิสัยของมืออาชีพ หากคุณไม่อยากถูกมองว่าทำตัวเป็นเด็ก ๆ ควรกล้าที่จะเผชิญหน้า กับความจริงเมื่อคุณทำผิดพลาด และหาทางแก้ไขปัญหาให้คลี่คลาย จะดีกว่าการพูดว่า “ไม่ใช่ความผิดของผม/ ฉัน”
4. งานนี้ง่ายเกินไป คุณอาจคิดว่างานง่าย ๆ อย่างนี้ไม่ต้องให้คุณทำก็ได้ คิดได้แต่ไม่ควรให้เจ้านายรู้ เพราะเจ้านายอาจคิดว่า เขาไม่จำเป็นต้องจ้างคุณในเงินเดือนแพง ๆ เพื่อมาทำงานง่าย ๆ อย่างนี้ก็ได้ เขาอาจจ้างคนที่เก่งน้อยกว่า เงินเดือนน้อยกว่ามาทำงานแทนคุณ แล้วสุดท้ายคนที่จะลำบากก็คือตัวคุณเอง
5. ผม/ ฉันทำไม่ได้ เพราะผม/ ฉันมีงานอื่น ในสายตาของเจ้านาย คุณไม่ควรเอางานเสริมของคุณมาเป็นข้ออ้างในการที่ไม่สามารถกลับบ้านดึก ไม่สามารถทำงานล่วงเวลา หรือไม่สามารถทำงานให้เสร็จตรงเวลาได้ เขาอาจถามคุณว่าอะไรคือสิ่งที่ควรทำก่อน-หลัง ซึ่งคุณควรรู้คำตอบดีอยู่แล้ว
6. แสดงออกทางสีหน้า ดวงตา และน้ำเสียง การกระทำสำคัญกว่าคำพูดเสมอ คุณจึงไม่ควรแสดงออกด้วยการถอนหายใจ กรอกตาหรือขึ้นเสียงกับเจ้านาย เมื่อคุณรู้สึกไม่พอใจ การเงียบและวางเฉยเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
7. ทำเองสิ คนที่กล่าวคำพูดนี้ออกมา จะดูเป็นคนที่ไม่มีน้ำใจ และเห็นแก่ตัวขึ้นมาทันที ดังนั้นจงอย่าพูดคำนี้ออกมาเด็ดขาด หากคุณไม่สามารถช่วยเหลือเขาได้ ให้หาทางเลี่ยง และเลือกใช้คำพูดที่ไม่ทำร้ายจิตใจผู้อื่นจะดีกว่า
8. ผม/ ฉันจะหลับแล้ว แม้ว่าคุณจะง่วงมากในขณะทำงาน จนแทบจะลืมตาไม่ขึ้น แต่คุณควรจะแสร้งทำเป็นว่าคุณยังคงตั้งใจทำงานอยู่ตลอดเวลา ไม่ควรจะยอมรับและพูดออกมาว่า คุณกำลังจะหลับจริง ๆ
9. ให้ผม/ ฉันหาแฟนให้ไหม ไม่ควรหาคู่ให้เจ้านาย แม้ว่าเจ้านายคุณยังโสดอยู่ก็ตาม นั่นหมายรวมถึง ไม่ควรให้ความสนิทสนมกับเจ้านายมากเกินไป ควรจำกัดขอบเขตความสนิทสนมไว้ด้วย เช่น ไม่ควร add เจ้านายเป็นเพื่อนใน facebook ของคุณ หากคุณไม่ต้องการให้เจ้านายรู้เรื่องของคุณมากเกินไป

โปรแกรมพัสดุ PasssaduPD จัดซื้อโดยเฉพาะในวงเงินจำกัด

เชื่อว่าหลายๆ คนคงมีการจัดซื้อจัดจ้างกันมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ภายในออฟฟิส อุปกรณสำนักงาน เก้าอี้ ของแต่งบ้าน และอื่นๆ อีกเพียบ จะง่ายกว่ามั้ยถ้ามี โปรแกรมพัสดุ PasssaduPD จัดซื้อโดยเฉพาะในวงเงินจำกัดในราคา 5,000บาท ซึ่งโปรแกรมประเภทนี้จะช่วยให้การจัดซื้อเป็นไปได้ง่ายขึ้นทั้งในการออกออเดอร์ (Order), การทำใบเสร็จ (Billing), การกระทบยอดทางบัญชี (Banking) และอื่นๆ ที่โปรแกรมมีให้แบบสำเร็จรูป ทำให้คุณไม่จำเป็นต้องหาโปรแกรมอื่นเพิ่มเติมสำหรับการทำงานด้วยโปรแกรมเดียวจบ เอาละเรามาดูกันดีกว่าว่าโปรแกรมมี Features อะไรให้เราได้เลือกใช้งานบ้าง และมันดียังไงถึงต้องเลือกใช้โปรแกรมนี้

โปรแกรมพัสดุ PasssaduPD จัดซื้อโดยเฉพาะในวงเงินจำกัด

โปรแกรมพัสดุ PasssaduPD จัดซื้อโดยเฉพาะในวงเงินจำกัด

โปรแกรม พิมพ์เอกสารจัดซื้อจัดจ้างโดยเฉพาะเจาะจง ในวงเงินไม่เกิน 5,000 บาท ตามระเบียบพัสดุ พรบ. 2560 หรือที่เรียกว่า e-GP เหมาะสำหรับงานราชการ เช่น โรงเรียน ที่ต้องทำเรื่องเบิกงบประมาณ มันก็จัดเป็นโปรแกรมประเภท Commercial ที่ต้องลงทะเบียนชำระเงินค่าใช้งานโปรแกรมก่อน จึงจะสามารถเข้าไปภายในเพื่อใช้งานได้ โดยเจ้าตัวนี้ จำเป็นต้องมี โปรแกรม Microsoft Excel ติดตั้งภายในเครื่องก่อน จึงจะเปิดใช้ได้ หากใครยังไม่ได้ติดตั้งไว้ในเครื่อง สามารถดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ไทยแวร์ได้เลย

โดย โปรแกรมพิมพ์เอกสารจัดซื้อจัดจ้างโดยเฉพาะเจาะจง PasssaduPD ตัวนี้ ได้ถูกพัฒนามาจากฝีมือคนไทยแท้ๆ ทำให้เมนูทั้งหมดเป็นภาษาไทยใช้งานง่าย ภายในโปรแกรม ประกอบด้วยหลายส่วน ตั้งแต่ส่วนที่ใช้กรอกข้อมูลพื้นฐาน ตลอดจนถึงข้อมูลต่างๆ ของผู้ที่เกี่ยวข้อง ช่วยให้เราสามารถพิพม์เอกสารได้อย่างสะดวกสบาย อีกทั้งยังมีเอกสารที่ในระบบ e-gp ไม่มีให้ เช่น ใบเสนอราคา ใบส่งมอบงานจ้าง ใบทราบผลการตรวจรับและขออนุมัติเบิกจ่าย ใบสำคัญรับเงิน เป็นต้น และสามารถบันทึกการจัดซื้อจัดจ้างแต่ละครั้งเก็บไว้ในฐานข้อมูล เพื่อการตรวจสอบในภาคหลังได้ นอกจากนี้ มันสามารถเลือกการคิดภาษี (Vat) ตามบิลได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Vat ใน Vat นอก หรือ ไม่คิด Vat ก็ได้

สำหรับองค์กรหรือร้านค้าไหนที่ต้องการโปรแกรมดีๆ แบบนี้สามารถติดต่อกับผู้พัฒนาโปรแกรมได้เลย รับรองได้เลยว่าโปรแกรมตัวนี้ใช้งานง่าย และไม่จำเป็นต้องหาโปรแกรมอื่นมาเชื่อมต่อให้วุ่นวาย ทั้งยังสะดวกกับคนที่ต้องการเรียกรายงาน (Report) มาดูผ่านโปรแกรม Microsoft Excel ได้อีกด้วย ถือว่าเป็นโปรแกรมที่สะดวกเลยทีเดียวนะ

รับมือจัดการงานหนัก เริ่มต้นงานทุกวันด้วยความสนุกและมีความสุข

เริ่มต้นสัปดาห์ของการทำงาน เป็นช่วงเวลาที่ต้องฝ่าฝันกับความขี้เกียจหลังวันหยุดสุดสัปดาห์ และงานจะพีคสุด ๆ อย่าบอกใคร ทั้งงานเก่าที่ค้างมาจากอาทิตย์ที่แล้ว วิธีรับมือจัดการงานหนัก แถมยังมีงานของอาทิตย์นี้จ่อรออยู่อีก เริ่มต้นสัปดาห์การทำงาน ก็ช่าง busy สุด ๆ จนแทบไม่มีเวลาหายใจหายคอ มาปลุกพลังการทำงานกันใหม่ด้วยวิธีต่อไปนี้

รับมือจัดการงานหนัก เริ่มต้นงานทุกวันด้วยความสนุกและมีความสุข

รับมือจัดการงานหนัก เริ่มต้นงานทุกวันด้วยความสนุกและมีความสุข

1. เริ่มต้นวันใหม่ให้สดชื่น

เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ปลุกพลังให้ชีวิตตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า ออกมายืดเส้นยืดสาย สัมผัสธรรมชาติ สายลมแสงแดด สูดอากาศยามเช้าให้เต็มปอด รับออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย ช่วยสร้างความสดชื่น สดใส ทำให้สมองปลอดโปร่ง มีพลังดี ๆ ที่จะเริ่มต้นงานในวันใหม่ได้อย่างกระฉับกระเฉงมากกว่าที่เคย

2. ปลุกขวัญกำลังใจให้ตัวเอง

มาเสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้ฮึกเหิม เชื่อมั่นในตัวเองว่าเราจะสามารถผ่านพ้นกองงานเท่าภูเขาเลากาเหล่านี้ไปได้ในที่สุด กำลังใจที่เข้มแข็งจะทำให้รู้สึกฮึดสู้ อย่าลืมมองดูรอบ ๆ ตัวเรา เพื่อนร่วมงานของเราอีกหลายชีวิตก็กำลังฝ่าฟันทำงาน พยายามเอาชนะอุปสรรคปัญหาต่าง ๆ นานาเหมือนเราอยู่เช่นกัน ตัวเราไม่ได้เป็นคนเดียวที่ทำงานหนักอย่างแน่นอน

3. วางแผนได้ สำเร็จง่ายขึ้น

ต้องรู้จักวางแผนการทำงาน เริ่มจากจดทุกอย่างที่ต้องทำไว้ โดยเรียงลำดับตามความสำคัญของงาน เมื่อทำเสร็จก็ขีดฆ่าออกไป รู้สึกดีใช่ไหมที่สามารถเคลียร์งานแต่ละตัวออกไปได้อย่างต่อเนื่อง หรือจะลองจัดสรรเวลาทำงานโดยใช้หลักการของ Pareto ยึดหลัก 20/80 แบ่งงานของเราออกเป็น 2 ประเภท คือ งานสำคัญมากที่สุด 20% ที่เหลือ 80% คืองานที่สำคัญรองลงมา แล้ววางแผนต่อว่า 80% ของเวลาทำงานในแต่ละวัน เราได้ทุ่มเทกับงานสำคัญ 20% ที่ว่านี้อย่างเต็มที่หรือไม่ หากรู้จักวางแผน จัดลำดับความสำคัญของทุกสิ่งอย่างแล้ว การงานทุกอย่างก็จะลงตัวมากขึ้น และทำให้สำเร็จได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

4. ใช้เส้นตายและเป้าหมายเป็นแรงกระตุ้น

นอกจากเส้นตายที่เจ้านาย หัวหน้า หรือลูกค้ากำหนดไว้ จะเป็นเชื้อไฟในการทำงาน (วินาทีสุดท้าย) ได้เป็นอย่างดี หรือจะลองใช้วิธีที่ดีต่อใจมากกว่า ด้วยการตั้งเป้าหมายว่าหากทำงานนี้เสร็จ เราอยากทำอะไร หรือจะให้รางวัลอะไรกับตัวเอง มีเป้าหมายมาล่อใจอย่างนี้ มีพลังในการทำงานอย่างแน่นอน

5. หากไม่ไหว … ต้องให้ทีมช่วย

หากปริมาณงานที่ได้รับมอบหมายมากเกินไป ไม่สามารถทำให้เสร็จได้ภายในวันเดียว ต้องรีบแจ้งหัวหน้างานให้ช่วยหาวิธีแก้ปัญหาทันที ดีกว่าให้งานทั้งหมดมากองอยู่ที่เรา จนต้องล่าช้าส่งผลกระทบไปยังส่วนงานอื่น ๆ ทางที่ดีอาจให้ทีมเข้ามามีส่วนร่วม รวมพลังร่วมด้วยช่วยกัน แถมตอนช่วยกันทำงานยังได้พูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันเรื่องงาน สร้างความสัมพันธ์อันดีไปพร้อม ๆ กับการสร้างสรรค์ผลงานอย่างมีประสิทธิภาพ

6. ต้องสู้จึงจะชนะ

พึงระลึกไว้เสมอว่า งานยากเป็นงานที่ท้าทายความสามารถ งานหนักสร้างโอกาสในการเรียนรู้ให้กับตัวเรา เมื่อค่อย ๆ เรียนรู้ปัญหาและหาทางแก้ไขได้ เราจะค้นพบตัวเองว่าสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด ต่อไปเมื่อต้องเจอกับงานยากเท่าไหร่ก็ไม่หวั่น เพราะที่สุดแล้วเราก็จะผ่านไปได้ เพราะเคยผ่านมันมาแล้ว แทนที่คำว่า “ทำไม่ได้” ด้วยคำว่า “ทำอย่างไร” เอาชนะได้ทุกอุปสรรค พร้อมพัฒนา skill การทำงานไปในตัว

7. พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ เติมไฟในการทำงาน

จงทำตัวเป็นน้ำที่ไม่เต็มแก้วอยู่เสมอ อย่าเพิ่งมั่นใจว่าทำงานมาหลายปีแล้วเราจะเป็นคนทำงานเก่งและมีประสิทธิภาพเสมอไป เพราะเรื่องการทำงานนั้น เราสามารถเรียนรู้และพัฒนาให้ดีขึ้นได้ในทุกวัน เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ให้กลายเป็นคนกระตือรือร้น ตื่นตัวที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และศึกษางานใหม่ ๆ อยู่เสมอ เมื่อมีปัญหาก็ฝึกแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ด้วยตัวเอง เรียนรู้จากความผิดพลาด เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอย่างต่อเนื่อง แล้วหนทางของความสำเร็จในสายอาชีพก็จะไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป

8. ออกจากกรอบ หลีกหนีความจำเจ

การอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิม ๆ ทำอะไรซ้ำ ๆ เดิม อยู่ทุกวัน นำไปสู่การเบื่องานได้ในที่สุด แถมยิ่งหนักเป็นสองเท่า หากเจอสถานการณ์งานรุมเร้า เพราะทั้งเบื่อและทั้งเหนื่อย ทางที่ดี อย่าทำตัวให้คุ้นชินกับสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ออกจากสิ่งแวดล้อมเดิม ๆ ไปหาบรรยากาศใหม่ ๆ ในการทำงาน ลองเปลี่ยนมุม หรือย้ายที่นั่งทำงานชั่วคราว จะได้เกิดแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ในการทำงาน กระตุ้นให้อยากสร้างสรรค์ผลงานให้ดียิ่งขึ้น และมีประสิทธิผลมากขึ้น

9. สร้างจุดเด่น เพิ่ม Talent ให้ตัวเอง

หาสิ่งที่เป็นจุดแข็ง สิ่งที่เราเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในการทำงาน เพื่อมุ่งสู่ความเป็นมืออาชีพ คนที่สามารถรับผิดชอบต่อเรื่องคุณภาพ ต้นทุน เวลาส่งมอบงาน และสามารถสร้าง output ได้มากกว่าที่องค์กรคาดหวัง จะเป็นบุคลากรคุณภาพที่มักจะได้รับความไว้วางใจให้ทำงานสำคัญ ๆ อยู่เสมอ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตนเองในการทำงาน แล้วเราจะรู้สึกว่าตัวเองเก่งขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเกิดความชำนาญแล้ว อะไร ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป อีกทั้งยังสามารถทำงานได้อย่างมีความสุขในทุกวัน

10. ดูแลตัวเอง รู้จักพัก เพิ่มพลังให้ชีวิต

ทุ่มเททำงานหนักแล้วก็อย่าลืมหาเวลาพักบ้าง ดูแลตัวเองกันด้วย เพราะร่างกายไม่ใช่เครื่องจักร ยิ่งทำงานหนักก็ยิ่งต้องใส่ใจดูแลสุขภาพ หาเวลาออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำตลอดอย่าให้ขาด หาเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ หรือจะลองฝึกสมาธิเพื่อ refresh สมองก็ดีไม่น้อย การดูแลตัวเองเป็นอย่างดีจะทำให้มีสุขภาพกายแข็งแรง เพิ่มพลังกาย พลังใจ และพลังสมองในการทำงานหนักได้ต่อไป

โปรแกรม WonderFox DVD Ripper แปลงไฟล์วีดีโอคุณภาพสูง

เชื่อว่าหลายคนคงชอบดูหนังเป็นชีวิตอยุ่แล้ว แต่ครั้นจะเก็บไว้ใน DVD อย่างเดียวก็ดูว่าจะน่าเบื่อเกินไป อยากมีเก็บเป็นไฟล์สำหรับลงไว้ในคอมพิวเตอร์ส่วนตัวด้วยเหมือนกัน ทำให้เกิดโปรแกรมแปลงไฟล์ DVD ขึ้นมาหลายโปรแกรมด้วยกัน 1 ในนั้น คือ โปรแกรม WonderFox DVD Ripper ที่แปลงไฟล์วีดีโอคุณภาพสูง ให้ภาพที่คมชัดและเสียงที่ชัดเจน เหมือนหลุดออกมาจากแผ่น DVD เลยทีเดียว เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบอรรถรสในการดูหนังอย่างแท้จริง ซึ่งให้เสียง Surround ตามฉบับโรงหนังจากผู้สร้างเลยก็ว่าได้ และภาพที่คมชัดมากๆ ตามแบบหนังต้นฉบับ ทำให้การแปลงไฟล์ที่ดีก็จะได้ไฟล์ที่ดีเช่นกัน หากใช้โปรดแกรมที่ไม่ดีแล้วละก็ ต่อให้เป็นแผ่น DVD ที่ดีขนาดไหนก็ตาม เราก็ยังคงดึงสักกายะภาพของหนังทั้งหมดออกมาจากแผ่นไม่ได้แน่ๆ ร่ายมายาวละ ต่อไปเราไปดูความสามารถของโปรแกรมกันดีกว่า

โปรแกรม WonderFox DVD Ripper แปลงไฟล์วีดีโอคุณภาพสูง

โปรแกรม WonderFox DVD Ripper แปลงไฟล์วีดีโอคุณภาพสูง

โปรแกรมแปลงไฟล์ วีดีโอจากแผ่นดีวีดี (DVD) ที่มีความละเอียดสูงโดยเฉพาะ ซึ่งกระบวนการนี้เขาเรียกว่า การ Ripping ข้อมูลจากแผ่นนั้นเอง โปรแกรมสามารถแปลงไฟล์ไปเป็นไฟล์วีดีโอนามสกุลอื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย เช่น  AVI, MP4, MOV, MKV, MPG พร้อมทั้งยังรองรับการแปลงไฟล์ที่สามารถนำไปใช้งานร่วมกับเครื่องเล่นหรืออุปกรณ์พกพาอื่นๆ อย่างมือถือ (Smartphone, iPhone, Android) หรือ แท็บเล็ต (Tablets, iPad) ได้ โปรแกรมมีฟังก์ชั่นในการลดขนาดของไฟล์วีดีโอให้เล็กลงจากเดิม โดยที่ไม่ลดคุณภาพของวีดีโอ (Video Quality) ลงไปจากไฟล์ต้นฉบับ อีกทั้งยังสามารถตั้งค่าและกำหนดขนาด รวมถึงความละเอียดของไฟล์วีดีโอได้อีกด้วย ทั้งยังสามารถปรับค่าเสียงต่างๆ (Audio Setting) ได้เพื่อรีดคุณภาพเสียงได้ถึงที่สุด ทั้งยังสามารถใส่ซับไตเติ้ล (Subtitle) ของหนังในกรณีที่ทำซับฯ เองก็ได้ บางครั้งไฟล์หนังอาจจะมีภาษาอื่นซึ่งเราไม่สามารถอ่านหรือแปลออกเช่นกัน

นอกจากนั้นแล้วโปรแกรมยังมีความสามารถเป็น โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ ที่มีเครื่องมือและฟังก์ชั่นในการแก้ไขวีดีโอ ปรับแต่งแสงและสีของภาพ รวมถึงใส่ลูกเล่นเอฟเฟกต์ต่างๆ เข้าไปในวีดีโอได้ โปรแกรมมีขนาดไฟล์ที่เล็ก สามารถติดตั้งและใช้งานได้ง่ายโดยที่ไม่กินทรัพยากรของเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำให้สามารถแปลงไฟล์วีดีโอคุณภาพสูงได้อย่างรวดเร็ว เอาละหากใครถูกใจโปรแกรมแปลงไฟล์ DVD ตัวนี้แล้วละก็แนะนำให้โหลดมาใช้งานก่อนซึื้อ เพราะทางทีมพัฒนาเค้าเปิดให้ใช้แบบ Shareware ก่อน หากใครสนใจจะอุดหนุนทีมพัฒนาแล้วก็ซื้อได้ในราคา 29.95$ นั่นเอง หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกท่านที่สนใจโปรแกรมแปลงไฟล์นะครับ แล้วเจอกันใหม่กับโปรแกรมครั้งหน้า สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ

โปรแกรม PDF Password Locker & Remover ตั้งรหัสผ่านไฟล์ PDF

เชื่อว่าหลายคนต้องใช้งานไฟล์ประเภท PDF กันอยู่ประจำ ยิ่งในองค์กรต่างๆ ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ต้องมีเอกสารสำคัญที่แปลงไฟล์ในรูปของ PDF แน่นอน ยิ่งเป้นความลับการล็อคไฟล์เป็นสิ่งสำคัญจึงต้องมีโปรแกรมช่วยอย่าง โปรแกรม PDF Password Locker ที่สามารถล็อค ตั้งรหัส และลบรหัสออกจากไฟล์ PDF ต่างๆ ได้ตามการใช้งานเลย ตัวโปรแกรมถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและคล่องตัวมากขึ้น โดยคนที่ไม่เคยใช้งานโปรแกรมประเภทนี้มาก่อน หมดห่วงได้เลย เพราะหน้าตาที่ทันสมัยไม่กี่คลิกก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว

โปรแกรม PDF Password Locker & Remover ตั้งรหัสผ่านไฟล์ PDF

โปรแกรม PDF Password Locker & Remover ตั้งรหัสผ่านไฟล์ PDF

ใช้สำหรับ ล็อค หรือ ปลดล็อค ไฟล์ PDF ของเรา ผ่านการเข้ารหัสผ่าน เพื่อป้องกันการแก้ไขโดยไม่ได้รับอนุญาต และยังสามารถที่จะกําหนดสิทธิ (Permission) ของผู้ที่จะแก้ไขได้อีกด้วย ซึ่งโปรแกรมตัวนี้ มาจากผู้พัฒนา PDFProtectFree ที่เปิดให้เราได้ดาวน์โหลดไปใช้กันได้ฟรีๆ ในส่วนของหน้าตาการใช้งาน (User Interface) ของโปรแกรมตัวนี้นั้น ได้ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย มีส่วนแสดงภาพตัวอย่าง (Preview) และส่วนแสดงรายละเอียดภายในตัวไฟล์ PDF ที่มีทั้ง ชื่อ (Name) ตำแหน่งที่ตั้ง (Path) ขนาด (Size) เป็นต้น ให้เราได้ทราบถึงไฟล์ที่กำลังจะล็อคไป โปรแกรมนี้มีขนาดไม่ใหญ่ทั้งยังรองรับการทำงานกับ Windows XP / Vista / 7 / 8 / 8.1 / 10 และ Server 2016 ด้วย ใครที่ใช้ Windows ตัวไหนอยู่ก็สบายเพราะรองรับทุกเวอร์ชั่นจริงๆ

นอกจากนี้แล้ว เราสามารถกำหนดสิทธิ (Permission) การเข้าถึงข้อมูล หรือ การแก้ไข ไฟล์ PDF ได้ และเรียกดูประวัติการใช้งานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการล็อค การปลดล็อค เปลี่ยนพาสเวิร์ด ผ่านเจ้าตัวนี้ได้สะดวกสบาย สำหรับใครที่กำลังมองหาโปรแกรม ที่ช่วยตั้งรหัสผ่านให้กับไฟล์ PDF นั้นก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเลย นอกจากจะใช้ง่ายแล้ว ยังกำหนดสิทธิการเข้าถึง การแก้ไขข้อมูล และ การก็อปปี้ข้อมูลภายใน ได้อีกด้วย ข้อดีของโปรแกรมตัวนี้มีมากมายตามคุณสมบัติด้านบนแล้วยังไม่พอ ทางทีมพัฒนาเค้าได้เปิดให้ดาวน์โหลดไปใช้กันแบบ Freeware ไม่ต้องเสียเงินซื้อโปรแกรมกันซะด้วย ทำให้เป็นทางเลือกสำหรับคนที่งบน้อยและต้องการใช้งานโปรแกรมประเภทนี้เลยละ

หลายคำถามที่ต้องตอบ ก่อนเปลี่ยนงาน ที่ทำอยู่

สำหรับคนทำงานยุคใหม่ การเปลี่ยนงานบ่อยดูจะเป็นเรื่องที่ปกติไปซะแล้ว แต่คุณต้องคิด ก่อนเปลี่ยนงาน ว่า เมื่อผู้ประกอบการเห็นประวัติการทำงานในโปรไฟล์หรือเรซูเม่ว่า “คุณเปลี่ยนงานบ่อยเกินไป” จะทำให้มีผลต่อการพิจารณารับเข้าทำงานได้ รวมถึงบรรดาเหล่า ฟรีแลนซ์ ผู้ประกอบการอาจคิดว่า คุณไม่มีความมั่นคงและไม่มีแรงจูงใจในการทำงานก็เป็นได้ เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ไม่รับคุณเข้าทำงาน ฉะนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจเปลี่ยนงานครั้งนี้ น่าจะดี ถ้าคุณได้พิจารณาถึงเหตุผลของการเปลี่ยนงานก่อนว่า “อะไรเป็นแรงจูงใจในการเปลี่ยนงาน” ซึ่งมีอยู่ 6 ปัจจัยด้วยกันที่มีผลต่อความสุขในการทำงาน และความพึงพอใจในงาน แค่คุณตอบคำถามทั้ง 6 ข้อด้านล่างนี้ คุณก็จะทราบว่า ถึงเวลาที่คุณจะต้องเปลี่ยนงานแล้ว หรือคุณยังมีความสุขดีกับการทำงานที่เดิมที่นี่

หลายคำถามที่ต้องตอบ ก่อนเปลี่ยนงาน ที่ทำอยู่

หลายคำถามที่ต้องตอบ ก่อนเปลี่ยนงาน ที่ทำอยู่

1. คุณได้รับเงินเดือนและสวัสดิการในอัตราที่ใกล้เคียงกับบริษัทอื่นในสายงานเดียวกันหรือไม่?

เงินเดือนเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญ ที่ใช้ในการพิจารณาก่อนเปลี่ยนงานเลยก็ว่าได้ แต่ก็ไม่ควรมองข้ามปัจจัยอื่น ๆ ด้วย เช่น เพื่อนร่วมงานที่ดี, การสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน และบรรยากาศที่ดีในการทำงาน เป็นต้น หากคุณพิจารณาจากทั้ง เงินเดือน สวัสดิการ และปัจจัยอื่น ๆ แล้วว่า ตัวคุณเองมีคุณค่ามากกว่าสิ่งที่คุณได้รับอยู่ ลองหาโอกาสพูดคุย ต่อรองกับหัวหน้างานหรือเจ้านายของคุณดูว่าจะได้ผลหรือเปล่า

2. การทำงานของคุณมีความท้าทายมากพอหรือไม่

ถ้าคุณกำลังเบื่องานที่ทำ คุณจะรู้สึกว่าไม่มีกระจิตกระใจที่จะทำงานอะไร แรงบันดาลใจไม่มี ความคิดสร้างสรรค์ไม่เกิด สาเหตุอาจมาจากงานที่คุณรับผิดชอบเป็นงานเดิม ๆ ไม่มีอะไรใหม่ จึงทำให้หมดความท้าทายในการทำงานไป ให้คุณลองคิดทำโปรเจคใหม่ ๆ เพื่อแสดงศักยภาพในการทำงาน และสร้างความประทับใจให้หัวหน้าหรือเจ้านายเห็น จากนั้นดูว่าคุณมีได้ขยับขยาย ได้เลื่อนตำแหน่งเพื่องานที่ท้าทายมากขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ หรือได้ขึ้นเงินเดือนบ้างหรือเปล่า

3. คุณเหมาะกับวัฒนธรรมองค์กรของบริษัทที่คุณทำงานอยู่หรือเปล่า?

สไตล์การทำงานและการบริหารงานขององค์กร ในบริษัทที่คุณทำงานอยู่ เป็นไปในทิศทางที่เหมาะสมกับตัวคุณหรือไม่? ถ้า “ใช่” คุณคือหนึ่งในผู้โชคดี เพราะความเข้ากันได้นี้ จะทำให้คุณมีความสุขในการทำงาน และสร้างผลงานได้อย่างมีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพ

4. มีสมดุลกับชีวิตส่วนตัวในงานปัจจุบันหรือไม่?

ความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงานเป็นสิ่งสำคัญกับคุณหรือไม่? ถ้า “ใช่” ลองสังเกตุดูว่า ผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน ถ้างานที่คุณทำอยู่ตอนนี้ ทำให้สุขภาพของคุณทรุดโทรม ทั้งเครียด ทั้งป่วย นี่ก็เป็นสาเหตุที่ดี ที่คุณควรเปลี่ยนงาน เพราะเงินก็ไม่สามารถทำให้สุขภาพของคุณกลับมาสมบูรณ์ 100 เปอร์เซนต์ได้หรอก

5. ถ้ายังทำงานอยู่ที่นี่ คุณมีโอกาสที่จะเติบโตในสายอาชีพนี้ต่อไปหรือเปล่า?

ถ้าคุณเล็งเห็นแล้วว่า การเปลี่ยนงาน จะทำให้คุณสามารถเติบโตในสายอาชีพไปได้ไกลกว่านี้ ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าคุณยังไม่ได้แจ้งให้กับหัวหน้างานหรือเจ้านายทราบ ให้คุณลองดูว่า คุณค่าในตัวคุณ และผลงานคุณภาพต่าง ๆ ที่คุณได้สร้างขึ้น ทำให้พวกเขาพยายามรักษาคนทำงานคุณภาพเช่นคุณไว้หรือเปล่า หรือพวกเขาหาวิธีที่ดีที่สุด เพื่อให้คุณได้มีความก้าวหน้าในสายอาชีพต่อไปหรือไม่

6. คุณชอบสภาพแวดล้อมในการทำงานหรือไม่?

สภาพแวดล้อมในการทำงาน ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม อย่างตอนเช้าคุณต้อง ตื่นเช้าแค่ไหน เพื่อออกมาฝ่าปัญหารถติดไปทำงาน บางวันไปถึงที่ทำงานสาย ก็อาจทำให้คุณเสียสิทธิบางอย่างตามกฎระเบียบของออฟฟิศไป จะดีกว่ามั้ย หากคุณจะเปลี่ยนงาน เปลี่ยนที่ทำงานให้ใกล้บ้านมากขึ้น หรือว่าจะเป็นหัวหน้างาน เจ้านายหรือเพื่อนร่วมงาน ก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงานได้ ลองสำรวจดูว่า คุณทำงานกับพวกเขาด้วยความสบายใจหรือเปล่า เพื่อนร่วมงานของคุณ สามารถเชื่อใจได้ ทำงานได้ดี ทำงานด้วยกัน แล้วสมาชิกในทีมมีความเข้ากันได้มากน้อยแค่ไหน เพราะสิ่งเหล่านี้ จะส่งผลต่อทั้งคนในทีมและบริษัท สภาพแวดล้อมในการทำงาน จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเหมือนกัน

cr.jobsdb

โปรแกรม Disk Drill ใช้กู้ข้อมูล กู้ไฟล์ที่หายไปบนคอมพิวเตอร์

เชื่อว่าหลายคนคงเจอสภาพลงคอมใหม่แล้วข้อมูลหายหมดเลย หรือ เผลอลบไฟล์ไป มีคนไปลบ ทำหายหาไม่เจอ ต้องใช้โปรแกรมกู้ข้อมูลไฟล์ด้วย โปรแกรม Disk Drill ที่ใช้งานง่ายเหมือนโปรแกรมจัดการของ Windows ยังงั้นเลย ทำให้ไม่ต้องทำความคุ้นเคยกันสักเท่าไรและสามารถใช้งานบน Mac ได้ด้วยนะ เอาละในเมื่อรองรับการทำงานมากขนาดนี้มาดูกันว่ามันมีฟีเจอร์อะไรที่น่าสนใจและทำงานยังไงกันดีกว่า

โปรแกรม Disk Drill ใช้กู้ข้อมูล กู้ไฟล์ที่หายไปบนคอมพิวเตอร์

โปรแกรม Disk Drill ใช้กู้ข้อมูล กู้ไฟล์ที่หายไปบนคอมพิวเตอร์

เอาไว้ใช้ในการกู้ข้อมูล กู้ไฟล์ ที่หายไป หรือถูกลบไป ไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ หรืออาจจะเกิดจากการติดไวรัส ต่างๆ ซึ่งโปรแกรมนี้จะสามารถนำไฟล์ที่ถูกลบไปแล้ว กลับมาให้คุณได้อีกครั้ง มันจะมีประโยชน์มากๆ หากไฟล์เอกสารสำคัญทางธุรกิจ รายงานต่าง รูปภาพสำคัญๆ เพลง คลิปวีดีโอ ต่างๆ ที่อาจจะหายไป และคุณเกิดมีความจำเป็นจะต้องใช้มัน โปรแกรม Disk Drill นี้ช่วยได้ มันเป็น โปรแกรมกู้ข้อมูลบน Mac ที่ใช้กู้ข้อมูล กู้ไฟล์ ได้จากทั้งฮาร์ดดิสก์ (Harddisk) ทั้งฮาร์ดดิสก์ภายใน (Internal Mac Harddisk) และ ฮาร์ดดิสก์ภายนอก (External Harddisk) แฟลชไดร์ฟ (USB Flash Drive) การ์ดหน่วยความจำ (Memory Card) โปรแกรมนี้สามารถจัดการกู้ และ นำมันกลับมาได้อย่างดีเลยทีเดียว ซึ่งไม่ใช่แค่สามารถกู้ไฟล์ที่ถูกลบได้อย่างเดียว แต่ยังช่วยกู้ไฟล์ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ หรือ พาร์ติชั่นที่หายไป (Lost Partition) โปรแกรมนี้ก็สามารถช่วยคุณได้เช่นกัน

หลักการของโปรแกรมนี้มันจะทำการสแกนหาข้อมูล หาไฟล์ ที่หายไปก่อน เพราะปกติไฟล์ที่ถูกลบจากอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล (Storage Devices) ต่างๆ อย่าง ฮาร์ดดิสก์ แฟลชไดร์ฟ เมมโมรี่การ์ด นั้นจะยังไม่ถูกลบทิ้งไปเลยทันที มันจะไปซ่อนเอาไว้ในส่วนที่กันเอาไว้ ซึ่งโปรแกรม Disk Drill นี้ก็จะเข้าไปสำรวจ สแกน ในส่วนที่กันไว้ตรงจุดนี้ ด้วยวิธีการ อัลกอริทึม ที่ชาญฉลาด (Powerful Scanning Algorithms) และเมื่อสแกน ได้ข้อมูลและไฟล์ ทั้งหมดที่ถูกลบแล้ว คุณก็สามารถเลือกได้เลยว่า ต้องการจะกู้ไฟล์ไหน กลับมาบ้าง ซึ่งสามารถทำได้ในคลิกเดียวเช่นกัน

โปรแกรมนี้สามารถใช้งานได้ทั้งกับระบบปฏิบัติการ Mac OS และ Windows OS ซึ่งใช้งานร่วมกับระบบการจัดเก็บไฟล์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น FAT exFAT NTFS HFS+ Linux EXT2 EXT3 EXT4 ซึ่งหลากหลายมากๆ เลยทีเดียว ใครที่ไฟล์หาย ข้อมูลสำคัญๆ หาย ลอง ดาวน์โหลดโปรแกรม ตัวนี้ไปใช้กันดูนะ แม้จะยังไม่มีข้อมูลสำคัญอะไรหายไป ก็สามารถโหลดติดเครื่องเอาไว้ก่อนได้เช่นกัน เผื่อสักวันหนึ่งคุณอาจจะต้องใช้มันในกรณีฉุกเฉิน

« Older Entries Recent Entries »