Speedtest เช็คความเร็ว อินเทอร์เน็ตเต็มสปีดทุกการใช้งาน

ถึงจะมองว่าอินเทอร์เน็ตมีไว้ไม่เสียหาย แต่ถ้ามีอินเทอร์เน็ตแล้วไม่มีคุณภาพก็ไม่ดีเหมือนกัน การเช็คความเร็วอินเทอร์เน็ตถือเป็นเรื่องยากช่วงก่อนหน้านี้หลายปี ในปัจจุบันสามารถ Speedtest เช็คความเร็ว ในยุคปัจจุบันการใช้อินเทอร์เน็ตถือเป็นวงกว้างมากนอกจาก 3G, 4G และ Wi-Fi ที่มีอยู่ทุกที่แถมติดตั้งง่ายด้วย และการใช้งานไม่ได้เสถียรในทุกวันแน่นอน ทำให้การเช็คและตรวจสอบอินเทอร์เน็ตจำเป็นต้องทำเมื่อเกิดความผิดปกติหรือจะให้ดีเช็คทุกวันๆ ละ 1 ครั้งก็ยังได้ และไม่จำเป็นต้องใช้อะไรมากเพียงแค่มีอินเทอร์เน็ตและมือถือ คอมพิวเตอร์สักเครื่องก็พอแล้วส่วนจะมีเว็บไหนให้บริการบ้างมาดูกัน

Speedtest เช็คความเร็ว อินเทอร์เน็ตเต็มสปีดทุกการใช้งาน

Speedtest เช็คความเร็ว อินเทอร์เน็ตเต็มสปีดทุกการใช้งาน

การเช็คความเร็วอินเทอร์เน็ต (Internet) ทำได้ไม่ยากเพียงเข้าเว็บไซต์ที่ให้บริการไม่ว่าจะเป็น thaiware, speedtest, adslthailand, 3Broadband, TOT, Cat Telecom, CS Loxinfo เป็นต้น แต่ละเว็บไซต์มีหน้าตาแตกต่างกันไปแต่ใช้งานง่ายและมีจุดประสงค์เดียวกันคือการเช็คความเร็วอินเทอร์เน็ต ทั้งยังแจกแจง IP Address มาให้ด้วย ซึ่งไอพีที่ว่านี้เป็นไอพีแท้จริงจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) นั่นเอง หน้าตาของเว็บไซต์เช็คสปีดจะมีแถบ Download, Upload, Ping มีหน่วยความเร็วเป็น Mbps และค่าความหน่วงเวลาอยู่ที่ ms จะเหมือนกันเป๊ะๆ ทุกเว็บ สิ่งที่แตกต่างคือ Server ที่เชื่อมต่อบนเว็บไซต์นั้นๆ บางที่อยู่ที่สิงค์โปร์ ฮ่องกง อเมริกา ไทย ขึ้นอยู่กับเว็บไซต์ที่ใช้งาน

ทีนี้มาดูค่าต่างๆ กันว่ามีอะไรบ้างที่ควรรู้ Latency คือ ค่าความเร็วในการตอบสนองที่เกิดขึ้นระหว่างการรับส่งแพ็คเกจข้อมูลระหว่างตัว Client กับ Server ยิ่งค่าตัวเลขนี้ยิ่งต่ำยิ่งดีทำให้การตอบสนองเป้นได้ไปอย่างรวดเร็ว ลดอาการหน่วงขณะใช้งาน ทั้งการรับ-ส่งข้อมูลรวมไปถึงการเล่นเกมส์ตระกูล Moba ที่จำเป็นต้องเล่นอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้พลาดในจังหวะสำคัญ ค่าต่อมาคือ Transfer Rate คือ ขนาดแพ็คเกจข้อมูลที่สามารถเดินทางได้ จะบอกว่าเป็นความเร็วในการรับส่งก็ได้เช่นกันยิ่งเน็ตเวิร์คมีแบนด์วิดสูงเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ค่า Transfer Rate สูงมากขึ้น ตรงนี้คล้ายๆ ค่าความเร็วอินเทอร์เน็ตยิ่งมีความเร็วสูง brandwith ก็จะสูงตามขึ้นอยู่กับแพ็คเกจที่ติดตั้งและความเร็วในการใช้งาน ค่าสุดท้ายคือ Jitter คือ ค่าความล่าช้า ในการรับแพ็คเกจข้อมูล ที่ทำได้ช้ากว่าข้อมูลที่ถูกส่งมา ยิ่งค่าตัวเลขนี้ยิ่งต่ำยิ่งดี คล้ายๆ ค่าความหน่วงแต่ก็ยังไม่ใช่ซะทีเดียวค่านี้แนะนำให้ต่ำไว้ดีที่สุด

เอาละทีนี้ก็รู้แล้วว่าต้องเข้าเว็บไซต์ไหนและดูค่าในการเช็คความเร็วอินเทอร์เน็ตยังไงให้อยู่รอด และพร้อมใช้งานอยู่ตลอดที่สำคัญการเช็คอินเทอร์เน็ตเบื้องต้นด้วยตัวเองก็สามารถแก้อาการอินเทอร์เน็ตช้าได้เองโดยไม่ต้องรอช่างเข้ามาให้บริการได้ด้วย หรือให้สะดวกขึ้นโทรหา Call Center ที่ให้บริการก็ได้เหมือนกันนะ

โปรแกรม Audiodope แต่งเพลง บันทึกไฟล์เสียง

มีไม่น้อยเลยที่เราอยากได้เพลงที่ชอบมาใส่ไว้ในมือถือ ผ่านโปรแกรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมแต่งเพลง แปลงไฟล์ โปรแกรมบีบอัดเสียงเพลง และอีกมากมาย วันนี้แอดมินมาแนะนำ โปรแกรม Audiodope โปรแกรมตกแต่ง แก้ไข แปลงไฟล์เสียงได้ครบครันในตัวเดียว ยิ่งใครที่ชอบการทำริงโทน (Ringtone) ด้วยโปรแกรมแล้วตัวนี้สามารถทำได้เช่นกัน ทั้งยังตัดท่อนที่ชื่นชอบและบันทึก (Save) เป็นไฟล์ต่างๆ ได้ตมต้องการ อาทิเช่น .MP3, .MP4, .M4r เป็นต้น ซึ่งไฟล์เพลงสามารถนำไปใช้กับมือถือตามรุ่นที่ใช้งานได้ทันทีเลย

โปรแกรม Audiodope แต่งเพลง บันทึกไฟล์เสียง

โปรแกรม Audiodope แต่งเพลง บันทึกไฟล์เสียง

เกริ่นกันคร่าวๆ ก่อนว่าโปรแกรมแต่งเพลงตัวนี้ ถูกพัฒนามาจากประเทศกรีซ (Greece) ซึ่งโปรแกรมที่มาจากประเทศนี้ก็มีเยอะอยู่พอสมควรเลยและแต่ละโปรแกรมก็ดีไม่แพ้กับทางอเมริกาเลย อะกลับมาที่ตัวโปรแกรมกันต่อ มันสามารถรับไฟล์เสียงและแปลงเข้ามาขึ้นหน้าจอในรูปแบบคลื่นเสียง (Wave) เพื่อให้เราสามารถตัดต่อเสียงที่ต้องการได้ละเอียด แค่นั้นยังไม่พอหรอก เพราะมันยังซูม (Zoom) ขยายเข้าไปหรือซูมออกมา ทำให้การตัดต่อ แก้ไขทำได้สะดวกมากขึ้น ส่วนสนับสนุนการเล่นไฟล์หลากหลายประเภท เช่น ไฟล์ WAV ไฟล์ FLAC ไฟล์ MP3 และไฟล์ OGG Vorbis ที่สามารถเปิดผ่านโปรแกรมนี้ได้แบบไร้กังวลเลยทีเดียว เพราะไฟล์สากลทั่วไปที่มีตามท้องตลาดและอินเทอร์เน็ต ความเจ๋งของโปรแกรมมันยังไม่หมดแค่นี้

ตัวมันเองสามารถปรับเสียงโทนต่างๆ ได้ไม่ว่าจะเป็นเสียง สูง กลาง ต่ำ เบส เป็นต้น ซึ่งมีความละเอียดอย่างมาก ยิ่งคนที่ทำงานด้านเพลงหรือ ชื่นชอบในการตัดต่อเพลงอยู่แล้วด้วยละก็ต้องลองหาดาวน์โหลดมาใช้งานกันดู คิดว่าคงดีไม่แพ้โปรแกรมตัวอื่นๆ อย่าง Nero Wave Editor ที่เป็นที่นิยมมากในรุ่นก่อนปัจจุบันผ่านมาหลายเวอร์ชั่นบางคนยังใช้งานกันอยู่เลย และโปรแกรมนี้มีที่เจ๋งไปกว่าเดิมคือการมิกซ์เพลง (Mix Music) ที่จะตัดต่อเติมแต่ง เสียงหลายเพลงเข้าด้วยกัน ใส่เอฟเฟค เพิ่ม-ลดสปีดของเพลงให้มันส์ดังใจหรือจะทำริงโทนตามสไตล์ที่ชอบก็ดีงามไม่แพ้กัน ตั้งแต่ดีเจ (DJ) มือสมัครเล่นไปจนถึงระดับสูงอาจจะหันมามองโปรแกรมนี้บ้างก็ได้นะเออ

โปรแกรมตัวนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยละสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปจนถึงระดับกลาง ที่ใช้งานง่ายและหน้าตาโปรแกรม (Interface) เข้าถึงได้ไม่ยากนัก ในเรื่องการติดตั้ง (Install) ก็ง่ายและไม่เปลืองทรัพยากรเครื่อง ยิ่งตอนแปลงไฟล์หรือบันทึกไฟล์เสียงก็ไม่กินทรัพยากรเกินจำเป็นนะ ในเรื่องของการอัดเสียงโดยตรงผ่านไมโครโฟนแล้วเข้าเครื่องเพื่อนำไฟล์เหล่านั้นมาตัดต่อ ผ่านโปรแกรมนี้ได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องใช้โปรแกรมตัวอื่นช่วยเลย ข้อเสียอย่างนึงของโปรแกรมตัวนี้คือการทำงานแบบทีละขั้นตอนทำให้เวลาที่เราต้องการแปลงไฟล์ที่ละเยอะๆ (Batch Process) เป็นไปได้ช้ากว่าเดิมนั่นเอง แต่ก็ยังทำให้มันเป็นตัวเลือกที่น่าจับตามองอีกตัวหนึ่ง แล้วก็ใครที่ชื่นชอบลองโปรแกรมใหม่และฟรี สามารถดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ผู้พัฒนาได้ทันที ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ และโฆษณาที่แอบแฝงมาแน่นอน

มาดู รีวิวมือถือ จากค่ายต่างๆ กันเถอะ

มือถือ อุปกรณ์ที่รู้จักกันดีในปัจจุบันมันมีความสามารถเยอะจนเรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า สมาร์ทโฟน เนื่องจากมีพัฒนาการหลายอย่างถูกใส่เข้าไปในมือถือเรียกได้ว่ายัดทุกความสามารถลงไปในมือถือเครื่องเดียวเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บไฟล์เอกสารงาน พรีเซ้นเตชั่น ไฟล์เพลง เกมส์ ภาพยนตร์ ตั้งเตือนเวลา ตารางการทำงาน ติดต่อสื่อสาร อินเทอร์เน็ต สิ่งอำนวยความสะดวกอย่างไฟฉาย หรือในปัจจุบันยังสามารถแชร์อินเทอร์เน็ตให้กับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนด้วยกันได้ด้วย มันจึงเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้แล้วในยุคนี้

ถามว่าทำไมถึงต้องมาดู รีวิวมือถือ ด้วยละ ตอบได้ง่ายมาก ถ้าคุณต้องการทราบข้อมูลของมือถือเครื่องนั้น ไม่ว่าจะค่ายไหนก็ตามต้องอ่านรีวิวมือถือตามอินเทอร์เน็ตหรือหาข้อมูลจากร้านค้าต่างๆ และแน่นอนข้อมูลบางแหล่งก็ไม่ครอบคลุมทุกสิ่งที่คุณอยากรู้ ร้านค้าก็คงไม่ทราบทุกรุ่นทุกยี่ห้อที่อยากได้แน่นอน ทำให้มันสำคัญมากยิ่งจำเป็นต้องซื้อมือถือสักเครื่องที่เป็นของตนเองด้วย ยิ่งต้องหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจมากขึ้นไปอีก แล้วทีนี้และคุณจะเห็นถึงความสำคัญมาก

มาดู รีวิวมือถือ จากค่ายต่างๆ กันเถอะ

มาดู รีวิวมือถือ จากค่ายต่างๆ กันเถอะ

สมาร์ทโฟนที่มีตามท้องตลาดไม่ได้มีเพียงค่ายเดียวเท่านั้น ยกตัวอย่างที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว อย่าง Apple ที่ออกมือถือและแท็บเล็ตเป็น iPhone iPad หรือจะเป็น iPod Touch ด้วย หรือจะเป็นฝั่ง Android ก็คงไม่พลาดอย่าง Samsung ที่มีออกมาหลายรุ่นมากๆ เช่นกัน ทำให้หลายคนต้องการเลือกซื้อกันไม่ถูกเลย เพราะด้วยความที่สเปคเครื่องที่ต่างกันไม่มากนัก และราคาที่ต่างกันเล็กน้อยในการเลือกซื้อจะดีมากขึ้นหากได้อ่าน รีวิวโทรศัพท์มือถือ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อมือถือสักเครื่องหนึ่ง

ค่ายมือถือที่ผลิตในปัจจุบัน ได้แก่

  1. Apple
  2. Samsung
  3. LG
  4. Oppo
  5. Lenovo
  6. Asus
  7. Sony
  8. HTC
  9. Nokia
  10. BlackBerry
  11. Motorola
  12. Microsoft
  13. i-Mobile
  14. Acer
  15. Acatal
  16. BenQ
  17. True
  18. AIS
  19. Dtac
  20. Wiko
  21. Panasonic
  22. Huawei
  23. Dell
  24. Go-Live
  25. Toshiba
  26. Sharp
  27. และอื่นๆ อีกมากมาย

เมื่อพูดถึง การรีวิวโทรศัพท์มือถือ จะเป็นการทดลองใช้งานมือถือแบบทั่วไป เช่น การใช้งานแอพพลิเคชั่น, การดาวน์โหลด, กล้องถ่ายรูปทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง, ระบบ NFC การถ่ายโอนข้อมูลต่างๆ รวมทั้งความโดดเด่นในด้านทรัพยากรเครื่องแต่ละรุ่น พร้อมยังบอกสเปคเบื้องต้นให้กับผู้ที่สนใจได้เป็นอย่างดี และยังมีคลิปวีดีโอสำหรับการใช้งานในส่วนต่างๆ อีกด้วย ถ้าคุณกำลังสนใจมือถือรุ่นไหนอยู่ละก็ลองแวะมาชมรีวิวมือถือ ที่นี่ได้เลย

สามารถติดตามอ่านบทความรีวิวมือถือได้ที่นี่เลย http://review.thaiware.com/mobile/

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ความสบายที่คุณต้องชอบเมื่อไม่อยู่บ้าน

หากคุณเป็นคนที่หลงไหลในของเล่นไอทีที่มีให้เล่นเยอะแยะแล้วละก็ 1 ในนั้นคงต้องเป็น หุ่นยนต์ดูดฝุ่น แน่นอนและถ้าได้พักอยู่บ้านหรือคอนโดติดริมถนนทั้งหลายก็คงสุดแสนจะชอบกับ ทิวทัศน์หรือความสะดวกสบายเมื่อกลับเข้ามาพักผ่อน แต่ก็คงไม่ดีแน่ถ้ากลับแล้วต้องมาทำงานบ้านทั้งกวาด ถูพื้นบ้าน คงหมดสภาพกัน ไหนจะเหนื่อยงานที่ทำแล้วยังต้องมาเหนื่อยกับงานบ้าน จึงต้องหาวิธีที่จะลดความเหนื่อยล้าของคุณด้วยเจ้านี่เลย ซึ่งมันช่วยคุณทำความสะอาดบ้านได้อย่างหมดจดแบบครบทุกซอกทุกมุมเลยจริงๆ เซ็นเซอร์การนำทางที่ชาญฉลาด ทั้งยังป้องกันการตกหล่นจากบันไดด้วย หุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวนี้มีลักษณะเป็นแผ่นทรงกลมเพรียวบาง ล้ำสมัย ที่เคลื่อนตัวไปมาได้เองอย่างเป็นอิสระ เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา หมุนตัวได้อย่างไม่จำกัด และมีขนแปรง ช่วยเก็บกวาดเศษฝุ่น ขนสัตว์ได้ ที่มากไปกว่านั้นคือ คุณสามารถตั้งค่าให้ทำความสะอาด โดยระบุ วัน เวลาใดก็ได้ เช่น เวลาที่คุณไม่อยู่บ้าน เป็นต้น เมื่อคุณกลับมาถึงบ้านของคุณก็จะสะอาดไร้ฝุ่น แบบที่คุณไม่ต้องเหนื่อยทำเองเลยสักนิด

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ความสบายที่คุณต้องชอบเมื่อไม่อยู่บ้าน

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ความสบายที่คุณต้องชอบเมื่อไม่อยู่บ้าน

โดยในปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่ายหลายค่ายที่นำเข้ามาและเริ่มแพร่หลายในกลุ่มผู้รักบ้าน เช่น Samsung, LG, iRobot เป็นต้น ซึ่งแต่ละค่ายจะมีเอกลักษณ์และความสามารถ ทั้งขนาดหุ่น รูปแบบ ฟีเจอร์การทำงาน อุปกรณ์ที่มีติดตัว ความทนทาน วัสดุที่ใช้ผลิต ระบบเซ็นเซอร์ภายใน ฯลฯ รวมไปถึงชื่อเรียกที่แตกต่างกัน เช่น Samsung จะเรียกว่า NaviBot, ทาง LG มีนามว่า Hom-Bot (ย่อมาจาก Home Robot) และค่ายสุดท้าย iRobot ตามด้วยชื่อรุ่นต่างๆ โดยแต่ละตัวแต่ละค่ายก็จะมีราคาไม่เท่ากันซึ่งการประเมิณราคาในท้องตลาดคร่าวๆ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 3,000 – 20,000 บาทขึ้นไป

หายห่วงได้กับเซ็นเซอร์อัจฉริยะที่มีมากรอบตัว ให้เคลื่อนที่ไปมาได้อย่างอิสระโดยไม่ชนสิ่งของแรงเกินไป คุณจึงวางใจได้ว่าหุ่นยนต์ตัวนี้จะไม่ชนเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านให้เกิดความเสียหายแน่นอน ถึงแม้ว่าบ้านของคุณจะมีธรณีประตู สายไฟ หรือสิ่งกีดขวางอื่นๆ บนพื้น ก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับ หุ่นยนต์ทำความสะอาด ตัวนี้ในการทำความสะอาดเลยละ ด้วยระบบการสแกนห้องของคุณว่ามีลักษณะอย่างไร มันจึงสามารถกำหนดเส้นทางการทำความสะอาดได้รอบบ้านอย่างมีประสิทธิภาพ ที่มากไปกว่านั้นคือระบบเซ็นเซอร์ (Sensor) จะตรวจจับปริมาณฝุ่นในแต่ละจุด ถ้าจุดใดที่มีปริมาณฝุ่นเยอะ มันก็จะเข้าไปทำความสะอาดในจุดนั้นซ้ำจนสะอาดหมดจด รวมถึงสามารถเปลี่ยนรูปแบบการทำความสะอาดตามสภาพพื้นผิวได้เองโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นพื้นไม้ หรือพรม ก็ไม่เป็นปัญหากับเจ้านี่แน่นอน

ทุกครั้งก่อนทำการซื้อสินค้าต้องคอยหมั่นเช็คโปรโมชั่น ส่วนลด หรือของแถมต่างๆ ที่มีมาให้พร้อมกับตัวหุ่นยนต์ รวมไปถึงสถานที่รับเคลม ซ่อม ซื้ออะไหล่และอุปกรณ์เสริมที่จำเป็น ไม่ว่าจะกรณีฉุกเฉินหรือไม่ก็ตาม หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ผู้ที่รักบ้านได้ทั้งความรู้ความเข้าใจ การตัดสินใจเลือกซื้อ และความสะดวกสบายที่เพิ่มมากขึ้น โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงและเวลาให้กับงานบ้านที่หนักหน่วงประจำสัปดาห์ เพื่อให้คุณได้มีเวลาไปจัดการอย่างอื่นได้มากยิ่งขึ้น

แบตสำรอง หรือ PowerBank ที่พกพาง่ายและติดตั้งในทุกวัน

หากพูดถึงคำว่า “แบตสำรอง” หรือ ที่ใครคนส่วนใหญ่มักจะเรียกเป็นภาษาอังกฤษกันว่า “พาวเวอร์แบงค์ (Power Bank)” นั้น มันเป็น อุปกรณ์เสริม บนโทรศัพท์มือถือ ที่กำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ผู้ผลิตมือถือ หรือแบตเตอรี่หลายๆ ค่ายที่เป็นผู้พัฒนา อุปกรณ์สินค้า IT ส่วนใหญ่ได้หันมาจับตลาดทางด้าน แบตสำรอง นี้ เป็นจำนวนมากขึ้นเพราะในปัจจุบัน มือถือ สมาร์ทโฟน กล้องดิจิตอล และอุปกรณ์อื่นๆ อีกมากมายที่ใช้แบตเตอรี่เป็นแหล่งพลังงาน ได้กลายมาเป็นอุปกรณ์ที่หลายๆ คนพกติดตัวไปไหน มาไหนด้วยตลอดเวลาที่อยู่นอกบ้าน หรือ ออฟฟิส สังเกตุได้จากเวลาที่เราเดินทางไปไหน มาไหน ก็มักจะเห็นได้ว่าคนส่วนใหญ่ ต่างก้มหน้า มองที่หน้าจออุปกรณ์สื่อสาร หรือจนมีชื่อเล่นของสังคมในปัจจุบันนี้กันว่า “สังคมก้มหน้า” ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ แบตเตอรี่ ที่ติดมากับอุปกรณ์สื่อสารเหล่านั้นหมดไปอย่างเร็วมาก

 แบตสำรอง หรือ PowerBank ที่พกพาง่ายและติดตั้งในทุกวัน

แบตสำรอง หรือ PowerBank ที่พกพาง่ายและติดตั้งในทุกวัน

มันเป็นอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้คุณสามารถใช้งานโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน หรือ อุปกรณ์ IT ที่คุณพกพาไปใช้นอกสถานที่ โดยที่ยังมีแบตเตอรี่ใช้งานอยู่ตลอดเวลา แบตสำรอง (Power Bank) ปัจจุบันได้มีการดีไซน์ให้ดูหรูหรา น่ารัก มีขนาดเล็กลง แถมยังมีการออกแบบให้เป็นได้มากกว่า แบตสำรองโดยบางรุ่นยังสามารถใช้เป็นไฟฉาย หรือ ใช้ฟังเพลงไปในตัวได้อีกด้วย โดยมีทั้งเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม หรือแม้เป็นรูปการ์ตูนน่ารักๆ รวมถึงความจุก็มีให้เลือกได้หลากหลายมากขึ้น ความจุของแบตสำรองมีตั้งแต่ 2,400 mAh ไปจนถึง 20,000 mAh ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ ราคาของแบตสำรองก็ได้ปรับลงมาถูกมาเป็นอย่างมาก ถ้าหากเทียบกับช่วงที่ออกมาขายใหม่ ๆ เหมาะที่จะเป็นอุปกรณ์พกพาไปในที่ต่างๆ อีกเช่นนึงเลยทีเดียว

ซึ่งแต่ละค่ายที่ผลิตออกมาก็มีขนาดที่แตกต่างกัน สี รูปแบบ จำนวนความจุแอมป์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อของผู้บริโภค เพราะหากมีดีไซน์สวยงาม แต่ความจุน้อยเกินไป ก็เป็นไปได้มากที่ผู้บริโภคจะไม่เลือกซื้อไปใช้งาน แต่ถ้าหากความจุที่สูงเกินไป และมีน้ำหนักมากเกินกว่าจะพกพาได้ ก็แย่อีกเช่นกัน เพราะมันไม่สามารถตอบโจทย์ให้กับผู้ที่ใช้งานได้อย่างคล่องตัว อย่างไรก็ดีในปัจจุบันก็มีหลากหลายค่ายที่ผลิตและออกมาวางขาย หากให้แนะนำถึงยี่ห้ดังๆ แล้ว ก็จะมี Sony, Commy, Eloop, Sanyo และค่ายอื่นๆ มากมาย ก็ขึ้นอยู่กับว่าราต้องการบริโภค แบบไหนอย่างไร ก็อย่างลืมเช็คและตรวจสอบก่อนการซื้อขายและ การใช้งาน

ประเภทเคสมือถือ และ วัตถุดิบที่ใช้ทำเคสมือถือ มีกี่ประเภท

ประเภทเคสมือถือ มีกี่ประเภท (Mobile Phone Case)

แน่นอนว่ามือถือกับเคสมือถือนั้นเป็นของที่คู่กัน ซึ่งในปัจจุบันมีเคสหลากหลายรูปแบบให้เลือกซื้อใช้กันตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เพราะว่าเคสมือถือ นอกจากที่จะใช้เพื่อกันกระแทก และ กันรอย ของโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน รวมไปถึงเจ้า แท็บเล็ต ตัวเก่ง ของคุณแล้ว ยังสามารถใช้ช่วยในการบ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์ หรือ ความเป็นตัวคุณได้อย่างชัดเจนอีกด้วย เช่นบางคนใช้ เคสมือถือ ของทีมฟุตบอลทีมโปรด ก็จะรู้เลยว่าคุณเชียร์ทีมอะไร ลายยี่ห้อรถยนต์ ก็จะพอเดาออกและรู้เลยว่า ใช้รถยี่ห้ออะไร หรือชื่นชอบรถยี่ห้ออะไร แบบนี้เป็นต้น ในส่วนของ ประเภทเคสมือถือ นั้น เราอาจสามารถแบ่งได้ตามวัสดุที่ผลิต หรือว่าตามการใช้งานก็ได้ ในส่วนของราคานั้นก็ขึ้นอยู่กับแบรนด์ของเคสนั้นๆ รวมถึงวัสดุ ลวดลาย และความยากง่ายในการผลิตเคสออกมา ซึ่งสำหรับประเภทของเคสแบ่งได้ ดังต่อไปนี้

3 ประเภทเคสมือถือ ที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน

  1. เคสแบบอ่อน ยืดหยุ่นได้ (Soft Case) : เคสประเภทนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยมสูงมากๆ เพราะผลิตจากวัสดุประเภท ซิลิโคน และ TPU ซึ่งเคสมือถือรูปแบบนี้มีคนนิยมใช้มากที่สุดเลยก็ว่าได้ ด้วยสาเหตุที่ว่าหาซื้อง่าย ราคาถูก มีความยืดหยุ่นที่สูงมากๆ มีลวดลายที่โดดเด่น สามารถสร้าง หรือ พิมพ์ลวดลายลงบนเคสประเภทนี้ได้มากมาย แถมเคสแบบ Soft Case ยังรองรับแรงกระแทกได้ในระดับหนึ่ง แต่ข้อเสียของมัน คือ ไม่ค่อยทน เมื่อใช้ไปเป็นเวลานานอาจจะเสื่อม ฝุ่นเกาะง่ายกว่าเคสแบบอื่น นอกจากนี้แล้วอาจจะเปลี่ยนสีได้ เช่นสีขาว อาจจะคล้ำดำขึ้น
  2. เคสแบบแข็ง (Hard Case) : ทำมาจากวัสดุที่แตกต่างกันไป อาจจะเป็นพลาสติก หรือว่า Polycarbonate เคสแบบนี้ได้รับความนิยมรองมาจากแบบแรก ข้อดีก็คือ แข็งแรง ทนทาน ไม่ค่อยเป็นรอยเท่าไหร่ ยึดเกาะกับตัวเครื่องได้ดี แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณภาพของเคสมือถือแบบนี้ไม่ดี อาจจะทำให้ตัวเครื่องเป็นรอยได้ง่ายๆ เช่นกัน
  3. เคสแบบหนัง (Leather Case) : เป็นเคสมือถือที่สามารถอัพเกรดให้มือถือดูดี หรูหรา มีสไตล์ได้อีกทางหนึ่ง เนื่องจากทำจากหนังสัตว์ หรือหนังสังเคราะห์ ซึ่งป้องกันการขีดข่วนได้เป็นอย่างดี แต่ความสามารถในการซึมซับแรงกระแทกอาจจะต่ำ แต่ถ้าทำตกขึ้นมา มือถือคุณอาจจะไม่รอดก็เป็นได้ นอกจากนี้ คนที่ใช้เคสมือถือประเภทหนัง นี้จะต้องมีการบำรุงรักษาเป็นอย่างดี เหมือนเครื่องหนังประเภทอื่นๆ อย่าง กระเป๋า เข็มขัด นาฬิกาสายหนัง เป็นต้น

ทั้งหมดนี้คือประเถทของเคสที่สรุปมาให้ แต่ละประเภทก็จะมีข้อดีข้อเสีย ที่แตกต่างกันออกไป ใครถนัด ชอบแบบไหนก็จัดเลยจ้า

โปรแกรม Adobe Reader โปรแกรมเปิดอ่านไฟล์ PDF เบอร์หนึ่งของโลก

โปรแกรม Adobe Reader 11

หากพูดถึงไฟล์ PDF คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก เจ้าไฟล์เอกสารตระกูลนี้ เพราะมันเป็นไฟล์ ที่สามารถใช้กันได้ทั่วโลก เปิดอ่านได้ทุกภาษา และจุดเด่นที่มันมีมากกว่าไฟล์เวิร์ด หรือ ไฟล์เอ็กเซล ก็เพราะมันไม่สามารถที่จะนำไปคัดลอกทำซ้ำ ได้ หรือที่หลายคนรู้จักในนามคำว่าก๊อปปี้นั่นเอง ปัจจุบันก็มีโปรแกรมที่เอาไว้เปิดอ่านไฟล์ PDF มากมายในโลก อ่านได้ทุกภาษา รวมถึงภาษาไทยของเราด้วย แต่ตัวโปรแกรมที่เห็นจะเด่นดัง โด่งดัง และมีผู้ใช้งานมากที่สุดในประเทศไทย และ ทั่วโลก ก็คงจะหนีไม่พ้นเจ้า โปรแกรม Adobe Reader มันเป็นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาโดยบริษัทต้นตำหรับอย่าง Adobe จากเมืองลุงแซม ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เป็นผู้พัฒนา โปรแกรมแต่งรูป ชื่อดังอย่าง Adobe Photoshop นั่นเอง ซึ่งบริษัทนี้ มีประวัติการพัฒนาที่ยาวนานมามากกว่า 20 ปี (เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990) ด้านความน่าเชื่อถือ ชื่อเสียง ไม่ต้องพูดถึง

ความสามารถ โปรแกรม Adobe Reader

ด้านความสามารถของ โปรแกรม Adobe Reader นั้น มันมีความสามารถในการเปิดอ่านไฟล์ PDF ได้อย่างเดียว ไม่สามารถแก้ไข หรือแปลงไฟล์อะไรใดๆ ได้เลย แต่มีความสามารถในการค้นหาข้อมูลในไฟล์ได้อย่างละเอียด สามารถพิมพ์ออกมาทางเครื่องปริ้นเตอร์ได้ กำหนดหน้าที่จะพิมพ์ได้ แต่ก็ยังดี ที่เหลือความสามารถของการเซ็นต์ชื่อดิจิตอล (Digital Signature) ได้ออนไลน์ เอาไว้ในเวอร์ชั่นฟรี ตัวนี้ด้วย นอกจากนี้สามารถซูม (Zoom) หรือขยายเพื่อปรับ มุมมองของไฟล์ PDF ได้อย่างละเอียด โดยมีหน่วยเป็น % ได้อย่างอิสระ

แต่ถ้าหากผู้ใช้งานได้ทำการ อัพเกรดมาเป็นรุ่นพี่มันอย่าง Adobe Acrobat Pro ซึ่งในตัวนี้ นั้นมันจะสามารถแก้ไขไฟล์ PDF ได้ ซึ่งตัวนั้นจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงอยู่มากๆ เพราะฉะนั้นผู้ใช้งานไม่ควรสับสนระหว่างสองรุ่นนี้ นอกจากนี้แล้ว โปรแกรมนี้ถูกพัฒนาขึ้นให้ดูหลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นบนระบบปฏิบัติการ Windows หรือแม้แต่บนเครื่องแมค ที่ใช้ Mac OS นั่นเอง

ดาวน์โหลดโปรแกรม Adobe Reader ได้ที่นี่
http://software.thaiware.com/429-Adobe-Reader-Download.html

Recent Entries »